วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ดาราศาสตร์

ดาราศาสตร์เป็นวิทยาศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาวิทยาศาสตร์ทั้งหลายมันเป็นการศึกษาดาวเคราะห์ ในเชิงวิทยาศาสตร์
นักดาราศาสตร์ชาวกรีกได้พัฒนาทฤษฎีที่ว่าโลกคือศูนย์กลางของจักรวาลต่อมานักดาราศาสตร์ชื่อโคเปอร์นิคัสได้กล่าวว่าดวงอาทิตย์คือศูนย์กลางของระบบสุริยะ
ปัจจุบันข้อมูลมากมายได้มาจากกล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ซึ่งมีกระจกโค้งหรือเลนส์ที่ใหญ่ซึ่งรวบรวมแสงจำนวนเล็กน้อยที่กรองจากท้องฟ้าในเวลากลางคืน
สมัยเริ่มแรก
ดาราศาสตร์สมัยเริ่มแรก ดาราศาสตร์สมัยนี้เป็นดาราศาสตร์ที่เกิดจากการศึกษาโดยไม่มีอุปกรณ์ใดๆ แต่เป็นการศึกษาโดยใช้การคำนวณและการสังเกตเป็นส่วนใหญ่ ข้อมูลที่ได้มักไม่ค่อยมีความแม่นยำ อาจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง
ดาราศาสตร์จีน
ชาวจีนสามารถค้นหาได้ว่า 1 ปีมีความยาว 365วัน สร้างปฏิทินทำนายการเกิดอุปราคา และเป็นชาติแรกที่ทราบว่า ดวงจันทร์เคลื่อนที่จากทิศตะวันตกไปยังทิศตะวันออกใช้เวลาครบรอบประมาณ 28 วันนอกจากนี้ยังบันทึกการปรากฎและการกลับมาของดาวหางฮัลเลย์
แต่เนื่องจากจีนอยู่ห่างจากยุโรปมากทำให้ความรู้ของจีนไม่สามารถเผยแพร่ไปยังประเทศทางตะวันตกได้
ดาราศาสตร์ของชาวเมโสโปเตเมีย
เชื่อว่าโลกเป็นวัตถุกลมที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องจากอวกาศ
เชื่อว่าโลกถูกพยุงด้วยช้าง 4 เชือก ซึ่งยืนอยู่บนหลังเต่าใหญ่ตัวหนึ่ง เต่าตัวนี้นอนอยู่บนงูใหญ่ตัวหนึ่งซึ่งนอนขดอยู่
มีนักบวชที่คอยเฝ้าสังเกตปรากฏการณ์บนท้องฟ้า อย่างจริงจัง จนสามมารถสร้างปฏิทินกำหนดเวลาสำหรับพิธีทางศาสนาได้อย่างแน่นอน
เชื่อว่าโลกถูกปิดล้อมอยู่ภายในกำแพงใหญ่ซึ่งค้ำโดมเอาไว่ ตัวโลกวางอยู่บนชามอ่างน้ำ ส่วนวัตถุทั้งหลายติดอยู่ภายในโดมนี้
ดาราศาสตร์ของประเทศกรีซ
ชาวกรีกโบราณเป็นนักดาราศาสตร์ที่แท้จริง มีนักปราชญ์ที่มีผลงานด้านดาราศาสตร์ที่ควรกล่าวถึงมากมาย ดังนี้
ทาเลสแห่งไมเลตุส คำนวณได้ว่า ปีหนึ่งมี365 วัน ทำนายวันที่เกิดสุริยุปราคาได้ถูกต้อง แต่ยังมีความเชื่อว่าโลกมีสัณฐานแบน
ไพธาโกรัส เสนอความคิดว่า เอกถพเป็นทรงกลม มีลูกไฟที่ร้อนระอุเป็นจุดศูนย์กลาง มีดวงอาทิตย์ และสิ่งอื่นๆในจักรวาลโคจรไปรอบๆต่างระดับกัน 10 ชั้น
อริสโตเติล มีข้อพิสูจน์ที่ทำให้เชื่อว่าโลกมีลักษณะกลม แต่ยังเชื่อว่าโลกเป็นศูนย์กลางของเอกภพ
อาริสตาร์คัส คำนวณหาระยะทางและขนาดของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์แต่ผิดพลาดมาก มีความเชื่อว่าดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของเอกภพ
ฮิปปาร์คัส เขาค้นพบสิ่งต่างๆที่เป็นประโยชน์มากมายในการศึกษาในยุคต่อมา เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคเก่า
ปโตเลมี เขียนหนังสือรวบรวมผลงานของนักดาราศาสตร์รุ่นเก่าๆ
ดาราศาสตร์สมัยกลาง


นิโคเลาส์ โคเพอร์นิคัส สร้างอุปกรณ์สังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์มีความเชื่อว่าดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของเอกภพไทโค บราฮี ค้นพบดาวดวงหนึ่งปะทุขึ้นในกลุ่มดาวค้างคาว ตรวจสอบตำแหน่งของดวงดาวต่างๆ แต่มีความเชื่อว่าโลกเป็นศูนย์กลางของเอกภพ


กาลิเลโอ กาลิเลอี พบดาวระเบิดใหญ่ในกลุ่มดาวงูใหญ่ พบลักษณะดวงจันทร์ที่เป็นบ่อเป็นหลุมเขียนแผนที่ดวงจันทร์ พบบริวาร 4 ดวงของดาวพฤหัสบดี เชื่อว่าดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของเอกภพ พบว่าดวงอาทิตย์มีการหมุนรอบตัวเอง

ดาราศาสตร์สมัยปัจจุบัน

โจฮันส์ เคปเลอร์ ทำปฏิทินอันแรกขึ้น เป็นศาสดาพยากรณ์ ได้ตั้งกฎการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์ขึ้น
เซอร์ไอแซก นิวตัน ประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์ขึ้นเป็นครั้งแรก ตั้งกฎของการเคลื่อนที่ของวัตถุและกฎแห่งความโน้มถ่วง
โจฮัน เอแลต โบด กฎเกี่ยวกับระยะห่างของดาวเคราะห์ทั้ง 5 ดวง

จะเห็นได้ว่าความรู้ทางดาราศาสตร์พัฒนามาเรื่อยๆ จนมาถึงในยุคปัจจุบันที่เราสามารถใช้เครื่องมือที่ตรวจจับแสงสว่างที่มองไม่เห็น ตรวจจับคลื่นวิทยุที่ส่งออกมาจากดวงดาวต่างๆ และในที่สุดมนุษย์ก็สามารถส่งยานอวกาศออกไปสู่อวกาศได้ ทำให้สามารถค้นพบข้อมูลต่างๆ จะเห็นได้ว่าความรู้ทางด้านดาราศาสตร์ยังคงพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

ไม่มีความคิดเห็น: